• เทคนิคนี้เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการสร้างบ้าน การตรวจรับบ้านขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความละเอียดรอบรอบในการพิจารณา เนื่องจากหากขั้นตอนนี้เจ้าของบ้านขาดการเตรียมข้อมูลมาแล้วนั้น ท่านจะได้อยู่บ้านที่เต็มไปด้วยปัญหามากมายหลายประการ และช่วงเวลาที่ผู้รับเหมากำลังลุ้นอยู่ว่าท่านจะเซ็นต์รับบ้านที่สร้างเสร็จนี้หรือไม่

• เพราะมันหมายถึง ค่าจ้างงวดสุดท้ายของผู้รับเหมา จะได้รับนั้นเอง การตรวจรับบ้านนั้น เจ้าของบ้านต้องศึกษาจากข้อมูลของตัวบ้าน ขนาดพื้นที่ และทุกๆอย่างที่ทางผู้รับเหมาสร้างมานั้นตรงกับความต้องการของเราหรือไม่มีปัญหาอะไรไหมถ้าทดลองใช้งานอุปกรณืต่างๆภายในบ้านถ้าหาก ก่อนจะเซ็นตกลงรับบ้าน การศึกษาวิธีตรวจรับบ้านนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

•  ในช่วงระหว่างที่ทำการก่อสร้างบ้านของท่านเองนั้น การดูแลเอาใจใส่ ถือเป็นการกระทำที่สมควรทำอย่างยิ่ง เพราะว่าในขั้นตอนหรือ กระบวนการก่อสร้างนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก และเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นเป็นอย่างมาก

• เพราะถึงแม้ว่าผู้รับเหมาที่ท่านเลือกมา หรือบริษัทที่ท่านเลือกมา อาจจะมีประวัติ มีผลงานในการทำงานที่ดี และมีประสบการณ์ในการก่อสร้างมาอย่างยาวมานาน ก็ไม่อาจจะไว้ใจได้ ทั้งหมดเลยทีเดียว เพราะยังไงมันก็ไม่ใช่บ้านของเขาอยู่ดี ไอ้เรื่องที่จะมาดูแลเอาใจใส่เท่าเจ้าของบ้านมันคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

• ดังนั้นขั้นตอนนี้ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากเป็น เพราะถ้าหากท่านมาดูแลเอาใจ คอยควบคุมดูแล มันก็จะทำให้ท่านสามารถมั่นใจได้ว่าบ้านของท่านจะไม่มีปัญหาใดๆตามหรืออาจจะมีก็น้อยกว่าที่คาดไว้ 

การขออนุญาติสร้างบ้าน

• เมื่อตกลงแบบบ้านลงตัว ตกลงราคาลงตัว ตอนนี้ก็คือต้องนำแบบไปขออนุญาติ สร้างบ้าน โดยหลักการก็คล้ายๆก็แต่อาจจะแตกต่างออกไปเล็กน้อยแล้วแต่บางพื้นที่ ที่ท่านจะไปสร้างรูปแบบการบริหารแบบไหน เช่น ส่วนตำบล หรือ เทศบาล

การหาผู้รับเหมาสร้างบ้าน

• เมื่อได้แบบบ้าน และได้เงินงบประมาณแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการหาผู้รับเหมาก่อสร้างบ้าน เราจะวิธีอย่างไรให้ในการเลือกผู้รับเหมาไม่ให้โดนหลอกเพราะปัจจุบันนี้มี ผู้รับเหมาจำนวนมากมาย และผู้รับเหมาคนไหนมีฝีมือ และมีราคาก่อสร้างไม่สูงจนเกินไป การว่าจ้างผู้รับเหมานั้นอาจจะจ้างเฉพาะส่วน ของค่าแรงเพียงอย่างเดียว หรือแจ้งทั้งค่าแรงทั้งค่าของ ซึ่งสองวิธีนี้มีข้อแตกต่างกัน

การหางบประมาณเพื่อการสร้างบ้าน

• เมื่อท่านสามารถหาแบบที่ถูกใจได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปท่านจะต้องเตรียมกำลังเงิน หางบประมาณการสร้าง บ้านหลายท่านที่มีเงินอยู่แล้วก็สามารถสร้างได้เลย แต่บางท่านมีงบน้อยก็ต้องใช้วิธีการกู้ยืมจาก สถานบันทางการเงินต่างๆ

ขั้นตอนการจัดเตรียมเอกสาร เพื่อขอยื่นกู้กับสถานบันทางการเงิน

• การกู้เงินซื้อบ้านจัดสรร หรือสร้างบ้านบนที่ดินของตัวเอง

1. ติดต่อกับฝ่ายสินเชื่อบ้าน
2. สำรวจและประเมินราคาบ้านและที่ดิน
3. ธนาคารและสถานบันการเงินพิจารณาคำขอกู้
4. ลงนามในสัญญากู้เงินและสัญญาจำนอง
5. โอนกรรมสิทธิ์และจดจำนองที่สำนักงานที่ดิน
6. รับเงินกู้

หาแบบบ้านที่ตรงใจ

• การหาแบบบ้าน อาจจะหาตามเงื่อนไข งบประมาณก่อสร้าง ตามจำนวนคนอยู่อาศัย ตามรูปแบบของบ้าน ว่าจะเป็นชั้นเดียว ชั้นครึ่ง สองชั้น แต่ในปัจจุบันนี้เนื่องจากราคาที่ดินสูงขึ้น จึงมีคนหันมาทำบ้าน 3 ชั้นกันมากขึ้นซึ่งมันมีข้อดีก็คือในเรื่องขนาดที่ใช้แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องการไม่สะดวกในการขึ้นลงบ้าน

• ซึ่งก่อนที่จะเลือกปลูกสร้างบ้านได้นั้นต้องเริ่มจากการที่หาแบบบ้านที่ตรงใจเพื่อพิจารณาเรื่องอื่นๆต่อไป

การเลือกซื้อที่ดินเพื่อที่จะปลูกบ้านหรือทำการสร้างสิ้งปลูกสร้างนั้น การเลือกที่ดินหรือทำเลถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก การดูหน้าดินนั้นเพื่อกันการเคลื่อนตัวของหน้าดินซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับสิ่งปลูกสร้างของเราได้อย่างง่าย เพราะหากเกิดหน้าดินเคลื่อนตัวจะส่งผลให้ ดินทรุดตัวทำให้เกิดความเสียหายได้อย่างร้ายแรง ดังนั้นการเลือกที่ดินควรศึกษาดูให้ดี

โป่งยุบ คือความมหัศจรรย์จากการ

สร้างสรรค์จากธรรมชาติ

• โป่งยุบตั้งอยู่ในพื้นที่เอกชนเนื้อที่เฉพาะบริเวณที่เป็นจุดท่องเที่ยว ประมาณ 3 ไร่ โป่งยุบเกิดจากการยุบตัวของดินทำให้เกิดเป็นหลุมขนาดเล็กใหญ่หลายแห่ง บางแห่งก็มีขนาดที่ลึกมาก และเมื่อเดือนตามป้ายโป่งยุบไปก็จะลักษณะของหน้าผาที่มีการกัดกร่อนของน้ำ มีความสวยงามมาก

เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ 6.00-18.00

ค่าเข้าชมคันละ 30-50 บาท ถ้าหากมาเป็นหมู่คณะต้องแจ้งล่วงหน้า

• การเดินทาง : ตามทางหลวง 3087 บริเวณกิโลเมตรที่ 26 - 27 ก่อนถึงตัวอำเภอสวนผึ้ง 5 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายไปอีก 3.6 กิโลเมตร และ เลี้ยวขาว 500 เมตร

1. โป่งยุบ
   
2. The Scenery Resort & Farm
   
3. น้ำตกเก้าชั้น
   
4. ธารน้ำร้อนบ่อคลึง
   
5. บ้านหอมเทียน
   
6. แก่งส้มแมว
   
7. สวนผึ้งออร์คิด
   
8. ต้นขนมหวานสะพานกาแฟ
   
9. สวนผึ้ง รีสอร์ท
   
10. ธรรมสถาน วิโมกสิวาลัย
    

      คนไทยเราเป็นคนที่มีความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ดังนั้นทำอะไรคนไทยเราจะนิยมดูดวง ไม่เว้นแต่การซื้อที่ดินต้องมีการดูดวงแต่ไม่ได้เรียกว่าดูดวง แต่จะเรียกว่า ฮวงจุ้ย  เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยภูมิพยากรณ์ของประเทศจีน ซึ่งสั่งสมกันมานับพันๆปี หลักของฮวงจุ้ยนั้นจึงเป็นการถ่ายทอดความรู้จากรุ่นสู่รุ่นในแบบของความเชื่อ ซึ่งเป็นวิธีการสอนของคนสมัยก่อนมากกว่าการสอนด้วยหลักเหตุผลแบบวิทยาศาสตร์ แต่เมื่อเรานำความเชื่อของฮวงจุ้ยมาวิเคราะห์กันจริงๆแล้ว จะพบว่าความเชื่อเหล่านี้มีความสัมพันธ์กับหลักของเหตุและผลอยู่ไม่น้อยทีเดียว

1. ระยะทาง ระหว่างบ่อดินที่เราซื้อดินมากับสถานที่ก่อสร้าง

2. ชนิดของดิน ดูจากความลึก 1.00ม. แพงสุด เหมาะแก่การปลูกต้นไม้

3. ลักษณะการถมดิน

4. การขนส่ง

5. เวลาในการถม

6. ส่วนการบดอัด

7. ราคาดิน

 

การขายที่ดินนั้นเราต้องตั้งราคาที่เราต้องการขาย โดยดูจากทำเลที่ตั้งและสืบถามราคาใกล้เคียง ควรเปรียบและประเมินทางราชการที่ประเมินไว้เพื่อเสียค่าธรรมเนียมด้วย ราคาประเมินที่ดินทางราชสารสอบถามได้จากสำนักงานที่ดินที่แปลงนั้นตั้งอยู่

การขายที่ดินต้องมีหลักฐานเป็น โฉนดที่ดิน / หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ตามกฏหมายและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดิน

การเสียค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียน

1.ค่าธรรมเนียมประเมินที่ดินที่ทางราชการประเมินไว้ร้อยละ 0.01 ในปัจจุบัน

2.ค่าภาษีการโอนเสียตามราคาประเมินที่ดินที่ทางราชการประเมินไว้โดยคิดเป็นอัตราภาษีก้าวหน้า

3.ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีได้ที่ดินมาไม่เกินห้าปีนับแต่วันจดทะเบียน

การซื้อที่ดิน

1.ควรจะเดินสำรวจที่ดินในวงกว้างก่อนนะครับ และควรจะดูสภาพแวดล้อมที่คุณพึงพอใจ

2.ตรวจสอบหลักเขต และเส้นแนวที่ให้ชัดเจนก่อนนะครับ

3.ควรจะพูดคุยกับเจ้าของพื้นที่ข้างเคียงก่อน ถามในสิ่งที่ควรถามนะครับ

การปลูกบ้านนั้นเดี๋ยวนี้ย่อมมีการใช้ปูนเกือบทุกหลังซึ่งเมื่อก่อนการปลูกบ้านจะไม่ค่อยมีการใช้ปูนเท่ากับปัจจุบันเพราะว่าบ้านไม้จะทนกว่าบ้านปูนซึ่งปัจจุบันไม้มีราคาแพงขึ้นอย่างมากและก็หาไม้ที่จะมาสร้างยากกว่าสมัยก่อน ดังนั้นคนจึงหันมาใช้ปูนสร้างบ้านกันเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการผสมปูนจึงเป็นเรื่องสำคัญเพราะถ้าหากผสมปูนไม่ได้ที่จะส่งผลเสียทีหลัง เช่น

• ผสมเนื้อปูนน้อยไป จะทำให้ หินดินทรายไม่ยึดเกาะส่งผลให้ไม่มีความแข็งแรง
• ผสมทรายมากไป เมื่อระยะเวลาผ่านไป ปูนจะร่อนออกมาเนื่องจาก ทรายที่เยอะเกินไป

ลักษณะและสิ่งที่ต้องทำ

1. ที่ดินจะถูกเวนคืนหรือไม่
   
2. ประวัติของที่ดิน
   
3. ลักษณะของที่ดิน
4. ศักยภาพของที่ดิน
   
5. ฮวงจุ้ยกับที่ดิน
   
6. รูปทรงของที่ดิน
   
7. ระดับของที่ดิน  

          ก่อนที่คุณจะเริ่มสร้างบ้านนั้นคุณต้องศึกษาหาความรู้บ้างซักหน่อยเพราะว่าบ้านแต่ละหลังนั้นกว่าจะได้ก็ต้องทำงานหาเงินมาทั้งชีวิต และเมื่อการที่จะสร้างบ้านบนที่ดินของตัวเองทั้งที เราเองซึ่งเป็นเจ้าของบ้านควรจะหาความรู้ใส่ตัวหน่อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการต่อรองเพื่อว่าจ้างใครสักคนมาทำบ้านให้เรา

1. หาความรู้ให้เท่าทันคนที่เราจะจ้าง
2. หาความรู้ด้านวัสดุก่อสร้าง
3. หาความรู้ด้านงานก่อสร้างเพื่อตรวจสอบคุณภาพงานก่อสร้างบ้าน หากไม่ได้จ้างใครมาตรวจสอบให้

     และต้องพึงคำนึงไว้ว่าก่อนตกลงว่าจ้างทุกอย่างดูดีไปหมด แต่พอลงมือสร้างจริงสารพัดปัญหาทยอยมาให้เห็น

สิ่งท่านไม่สำควรนำมาพิจารณาสำหรับบริษัทที่ท่านจะจ้าง

1. บริษัทเขาใหญ่โตเขาไม่โกงหรอก
2. ชอบคนขายเลยใช้บริการ
3. คนที่เสนอราคาต่ำสุดยืนยันว่าบ้านของฉันได้คุณภาพแน่นอน มิหนำซ้ำยังเกทับอีกว่าก็เจ้าอื่นเสนอราคาแบบ
4. เอากำไรมากไป
5.  หรือบางทีเจ้าของบ้านก็คิดว่า เจ้าของบ้านไว้ใจผู้รับจ้างจึงให้สร้างบ้านให้ แถมสำทับว่า อย่าให้ผมผิดหวังก็แล้วกัน

          ซึ่งต้องขอบอกว่านั่นเป็นความไว้วางใจที่เจ้าของบ้านไม่มีหลักประกันอะไรเลย เจ้าของ บ้านอาจจะแย้งว่า ดูราคาก็แล้ว ต่อรองแบบสุดๆ ก็แล้ว สัญญาก็ดูแล้วดูอีก บริษัทก็ดูมั่นคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

เหตุผลของการถมที่มีอยู่ 2 ประการใหญ่ๆ คือ

1. ถมให้เต็ม
2. ถมให้สูงขึ้น

การถมที่ทั้งสองกรณีนี้มักจะทำรวมกันอยู่ คือ ถมจนเต็ม แล้วก็ถมให้สูงเพิ่มขึ้น สถานที่ที่จะต้องถมให้เต็มนั้นมักจะเป็นที่ราบลุ่ม ที่สามารถเปรียบเทียบระดับได้ระหว่างพื้นที่นั้นกับถนนที่เข้าถึง เป็นธรรมชาติที่เราต้องถมที่ให้สูงเท่าถนนเป็นอย่างน้อย และสูงกว่าถนน ซึ่งมักจะเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะกับชาวกทม. เพราะมีเหตุผลที่ใช้กันนักหนาว่า กลัวน้ำท่วม กลัวกทม.เขามายกระดับถนนขึ้น ข้อคิดในการถมที่นั้นก็มีมาก จึงสร้างความสงสัยให้กับเราได้ เพราะคำตอบเกี่ยวกับการถมที่นั้นสามารถประมวลได้มากมาย

การจะหาที่ดินดีๆสำหรับปลูกบ้านซักหลังต้องเลือกให้ดีหากเลือกไม่ดีแล้วอาจจะส่งผลกระทบกับตัวบ้านหลังจากสร้างเสร็จสิ้นแล้วก็เป็นไปได้อย่างมาก สิ่งแรกที่เราต้องดูเนื้อที่ดินหากเรากำลังหาซื้อที่ดินที่เรากำลังจะเอาไว้สำหรับปลูกบ้าน ต้องดูให้แน่ใจว่าพื้นที่ดินนั้นไม่เคยมีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกตัดมาก่อนเพราะไม่เช่นนั้นแล้ว หากเราปลูกบ้านทับที่ดินที่มีตอต้นไม้ใหญ่อยู่บ้านเราอาจจะได้รับความเสียหายจาก มอธ หรือ ปลวกได้ เพราะปลวกชอบกินไม้หากมีตอไม้ขนาดใหญ่อยุ่ใต้บ้านเราอาจเป็นเหตุให้บ้านทรุดตัวได้เนื่องจาก ปลวกที่กินตอไม้ทำให้ดินยุบตามตอไม้ที่ถูกกัดกินซึ่งเป็นเหตุทำให้บ้านเกิดความเสียหายได้

หากคุณกำลังมองหาซื้อที่ดินที่จะนำมาปลูกบ้าน หรือทำการก่อสร้างต่างๆนั้นการเลือกซื้อที่ดินนั้นสำคัญต้องตรวจสอบหลายอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าในอนาคตจะไม่ส่งผลต่อการปลูกสร้างของเราไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือตึก ตัวอันตรายที่สำคัญคือความชื้นกับน้ำเพราะสองตัวนี้หากมีอยู่ในดินแล้วจะกัดปูนหรือเหล็กของเสาที่เราตั้งไว้ได้อาจส่งผลให้ตัวบ้านเสียหายและที่สำคัญการจะสร้างบ้านนั้นต้องมีการถมดินและอัดดินให้แน่นก่อนไม่งั้นจะเกิดปัญหาตามมาได้

การซื้อที่ดินเปล่า

          มาดูกันว่า จะเลือกซื้อได้อย่างไร สำหรับท่านผู้อ่านที่กำลังหาซื้อที่ดินเปล่าเพื่อปลูกบ้าน หรือทำประโยชน์อื่นนั้น  ไม่ใช่แค่เจ้าของที่ดินไปชี้ ที่ดินเองแล้วจะซื้อได้เลย ต้องตรวจสอบกันหลายเรื่องทีเดียว เรามาว่ากันถึงข้อหลักๆที่ต้องตรวจสอบกันก่อนเลยดีกว่า

• ประการแรก

          ที่ดินเปล่าที่เป็นที่ดินที่ไม่มีทางเข้าออก  ส่วนใหญ่ ปัญหามักจะเกิดกับ ผู้ที่ซื้อ ที่ดินเปล่า หรือซื้อบ้านที่ปลูกสร้างเองบนที่ดิน ดังนั้น เราต้องตรวจสอบกันเรื่องที่ดินเปล่าเป็นที่ตาบอดหรือไม่ เพราะเคยมีผู้ขายที่เข้าใจว่า ที่ดินเปล่าของตนเองไม่ได้เป็นที่ตาบอดเนื่องจากมีถนนตัดผ่านหน้าที่ดินเป็นถนนลาดยางอย่างดี ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เจ้าของจะเข้าใจเช่นนั้น  แต่คุณสามารถตรวจสอบได้เบื้องต้นจาก โฉนดที่ดินโดยดูจากรูปโฉนด ว่าที่ดินติดทางสาธารณะประโยชน์หรือไม่ ถ้าติดทางสาธารณะ ติดอย่างไร เช่น รูปแปลงในโฉนดที่ดิน มีทางเป็นทางสาธารณะประโยชน์มาสิ้นสุดที่ขอบที่ดิน  ถ้าอย่างนี้แล้ว ประมาณการได้ว่า เป็นที่ดินตาบอด แต่ถ้าคุณดูแล้วไม่มั่นใจ หรือตรวจสอบจากรูปโฉนดไม่เป็น  ควรตรวจสอบที่กรมที่ดิน ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

• ประการที่สอง          

          เรื่องของการเวนคืนที่ดิน  การเช็คการเวนคืนที่ดินต้องทำการเช็คไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการเวนคืนที่ดิน  วิธีการง่ายๆ คือท่านลองสอบถามผู้ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงว่า จะมีโครงการตัดถนนหรือสร้างทางหรือไม่  จากนั้นท่านต้องทราบผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบหรือเจ้าของโครงการ ว่าเป็นของหน่วยงานใด  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างทาง มีดังนี้  กรมทางหลวง, การทางพิเศษแห่งประเทศไทย, สำนักงานเขต, กรมโยธา, สำนักงานผังเมือง  หากท่านเช็คแล้วไม่ติดการการเวนคืนเหล่านี้ก็ซื้อได้  แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการเวนคืนตลอดไปเพราะโครงการต่างๆเขาจะมีการจัดสร้างจัดทำในช่วงเวลาต่างๆ ไม่เหมือนกัน

• ประการที่สาม

          เรื่องของการอายัดที่ดิน  ซึ่งท่านจะต้องไปตรวจสอบที่กรมที่ดิน เนื่องจากโฉนดที่ดินที่ท่านเห็นนั้น อาจจะเป็นฉบับเก่าที่มี หรือถ่ายสำเนาไว้นานแล้ว ท่านควรตรวจสอบอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่า ปัจจุบัน โฉนดดังกล่าวไม่ได้ติดอายัดใด ๆ  อีกทั้งเป็นการตรวจสอบชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์อีกด้วย ว่ามีสิทธิ์ที่จะขายให้กับท่านได้หรือไม่