ข้อแนะนำในการเลือกซื้อที่ดิน

1. อย่าซื้อที่ดินถ้าหากคุณไม่เคยไปสัมผัสมันมาก่อน ควรมีเวลาตรวจสอบให้ทั่ว ได้เห็นสภาพแวดล้อมต่างๆ บางทีเราเลือกแปลงที่ดินจากผังโครงการ แต่เราไม่รู้ตำแหน่งทิศทาง ตอนจองเราว่าจองที่ดินหน้าโครงการ แต่ตอนโอนกลับเข้าไปอยู่ด้านในสุดเลย เปลี่ยนก็ไม่ได้ เสียหายเป็นอย่างมาก บางทีถ้าเป็นที่ดินแปลงริมโครงการ ที่ดินข้างเคียงภายนอกก็มีทั้งสวยและไม่สวย บ้านเก่าๆรกๆ ก็มี ที่ว่างเป็นบึงน้ำก็มีสวยๆ ถ้าไม่เดินดูก็จะไม่เห็น
2. ตรวจสอบผังที่ดิน และแนวเขตที่ดินให้ชัดเจน ถ้าไม่มีหลักเขต ก็ควรหาหลักไม้มาทำเครื่องหมายไว้ก่อน และตรวจสอบกับผู้ขายว่าตรงกันหรือไม่

รูปภาพตัวอย่าง ผังที่ดินสวนผึ้ง

1. ศึกษาประวัติของที่ดินนั้นๆ ว่ามีการซื้อขายเปลี่ยนมืออย่างไร ซื้อขายกันปกติหรือต้องฟ้องร้อง การพัฒนาที่ดินเป็นไปอย่างราบรื่นกับเจ้าของเดิมหรือที่ดินข้างเคียงหรือไม่ ที่ดินนั้นเคยทำอะไรมา ทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจซื้อ
2. ทำความรู้จัก และพูดคุยกับเจ้าของที่ดินข้างเคียง ถามความเห็นต่อการพัฒนาที่ดินนั้นๆ ความรู้สึกต่อโครงการ ในกรณีที่เป็นโครงการและมีผู้เข้าอยู๋ก่อนแล้ว ถามถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สาธารนูปโภคต่างๆ ได้สร้างตามโฆษณาไว้ไหม เพื่อนบ้านชอบที่นั่นหรือไม่
3. ถ้าคุณหาที่ริมน้ำ ต้องตรวจสอบระดับน้ำว่ามี ระดับสม่ำเสมอหรือไม่ ถ้าเปลี่ยนแปลง ต่างกันมากแค่ไหน
4. ตรวจสอบเรื่องน้ำท่วมว่าเคยมีหรือไม่ เคยขึ้นสูงระดับไหน ก่อสร้างจะได้กำหนดเผื่อไว้ได้ ฤดูฝนจะเป็นปัญหามากที่สุด ทั้งเรื่องน้ำและลม บางที่ลมแรงมาก เมื่อฝนตก ถ้าเราไม่รู้ข้อมูล การออกแบบบ้านก็อาจจะไม่ให้ความสำคัญเรื่องการกันฝน หลังคาและชายคาก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่ การแก้ปํญหาภายหลังต้องมาต่อเติมดัดแปลง ก็จะทำให้วุ่นวาย
5. สภาพภูมิอากาศอื่นๆ ที่มีผลกับการสร้างบ้าน เช่น โครงการอยู่แนวริมชายทะเล จะได้รับลมทะเล มีไอเค็ม จะทำให้ส่วนต่างๆที่เป็นเหล็ก เป็นสนิทและเสียง่ายมาก ถ้าออกแบบใช้โครงสร้างเหล็กเยอะก็ต้องกำชับให้ช่างทาสีสันสนิมอย่างดี พวกโครงการใหม่ๆที่พัฒนาในที่ราบลุ่มก็สร้างปัญหาให้กับผู้ซื้อพอสมควร ว่าบ้านโครงการริมคลองพึ่งอยู่อาศัยไม่นาน ท่อระบายน้ำทรุดพังหมด ดินก็อ่อน ถ้าโครงการจะถมใหม่ต้อง ตรวจสอบให้ดี เรื่องปลวกก็มีมากต่างกันแต่ละพื้นที่
6. ขนาดของที่ดิน แน่ใจว่าใหญ่พอขนาดบ้านที่ต้องการ การขอเปลี่ยน ขอขยายภายหลังไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะที่แปลงอื่น อาจจะขายได้แล้วหรือมีคนจองแล้ว
7. ต้องเปรียบเทียบดูที่ดินหลายโครงการ อย่าด่วนตัดสินใจเพียงแค่ดูโครงการแรกแล้วนึกชอบ เพราะการได้ศึกษาเปรียบเทียบ จะทำให้การตัดสินใจหรือต่อรองได้เป็นประโยชน์มากที่สุด
8. ตรวจสอบถามเรื่องสาธารนูปโภคให้แน่ใจ ไฟฟ้า ประปา น้ำทิ้ง อย่างวางใจว่าเมื่อสร้างบ้านแล้วจะต่อเชื่อมได้เลย เพราะบางที่น้ำ ไฟ ยังไม่ถึง เวลาเราไปขอไฟ ขอน้ำประปรา ทางประปาเขาจะให้เราออกค่าโยงสายปักเสามาเอง
9. ที่ดินหลายแปลง ไม่มีขอบเขตติดกับทางสาธารณะ ต้องตรวจสอบให้ดี ส่วนใหญ่เขาแก้ไขโดยการจดภาระจำยอม ให้ใช้ทางร่วมจากเจ้าของถนนส่วนบุคคล แต่มีการเปลี่ยนเกิดขึ้นได้เสมอ
10. และข้อสุดท้ายคือ เมื่อคุณตกลงซื้อที่ดิน การทำสัญญาถ้าลงรายละเอียดบางอย่างที่คุณไม่แน่ใจเพิ่มลงไปได้ก็ดี เผื่อเหนียว เช่น ราคาที่ดินที่ตกลงกัน เป็นแบบเหมาแปลงหรือต่อตารางวา ที่ดินขาย 100 วา แต่พอปักหมุดลงโฉนดกลายเป็น 96 วา หายไป 4 ตารางวา ก็ต้องมาทะเลาะกันตั้งแต่ยังไม่สร้างบ้าน เราไม่ยอมโอน เขาไม่ยอมคืนเงิน อย่างนี้มีบ่น เพราะการรังวัดมันคลาดเคลื่อนกันได้เสมอ ธรรมดาเวลาขายเขาจะคิดเราเป็นตารางวา ตัวบ้านแยกราคาต่างหาก ที่นี้ภ้ามันต่างจากข้อตกลง ควรจะจ่ายกันตามจริง จึงจะยุติธรรม